เรื่องเก่า เล่าใหม่

เรื่องเก่า เล่าใหม่ Old story but new telling ทักษะการขายอย่างหนึ่งคือการเล่าเรื่อง การเล่าเรื่อง Telling story เป็นกลยุทธ์ที่นักขายใช้มัดใจลูกค้า เพื่อฉีกสิ่งเดิม ๆ ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งบางคนยิ่งต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ชอบทำงานแบบเดิม ๆ แต่คาดหวังสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิต มันดูจะขัด ๆ กัน ทั้งในแง่ตรรกะ ความคิด ไหนไหนก็ว่าตามนั้น แต่นักขายจะเป็นผู้ซึ่งนำเสนอสิ่งดี ๆ สิ่งใหม่ ๆ เพื่อชี้ให้ลูกค้าเกิดแนวคิดว่า ทุกการเปลี่ยนแปลง ส่งต่อแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต การขายแบบการเล่าเรื่อง  เรื่องที่เล่าต้องเป็นเรื่องที่ผู้ฟังอยากฟัง และมีประโยชน์กับผู้ฟัง ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม กว่าการเล่าเรื่องจะเริ่มขึ้น นักขายที่ดีต้องมีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อม เตรียม short note เตรียมใจให้พร้อมกับโอกาสที่ได้รับ สิ่งหนึ่งในเรื่องเล่า นักขายต้องตอบให้ได้ว่า

? ทำไมลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้าหรือบริการจากเรา ? ทำไมเราถึงเป็นผู้ถูกเลือก เรามีข้อดี ข้อเด่น ด้านใด ทุก ๆ การนำเสนอ อย่างน้อยต้องใส่ benefit ให้กับลูกค้าให้ตรงใจ อย่างน้อยหนึ่งอย่าง อาจเป็น - เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย - ความสะดวก สบายในการใช้งาน - การบริการที่ดีเป็นเยี่ยม - สินค้าที่ผ่านมาตรฐานการรับรองทางสิ่งแวดล้อม - ความพร้อมเสมอ ทุก ๆ เวลาที่ลูกค้าร้องขอ - ไม่ต้องเก็บสต็อกให้เงินจม เพราะเราเก็บให้แทน - สินค้าดี มีคุณภาพ  - ราคาแตะต้องได้ เอื้อมถึง บลา บลา บลา สุดท้ายจึงก่อเกิดเป็นความน่าเชื่อถือ โลกของเรา เป็นไปได้น้อยมากที่จะคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ส่วนใหญ่จะเน้นการพัฒนาจากสิ่งที่มีอยู่ มาปรับปรุง ใส่โน่น ใส่นี่ บ้าง เพื่อนำเสนอลูกค้าต่อไป นักขายที่ดี ต้องเข้าใจพื้นฐานของการทำงานทั้งสินค้าและบริการของตนให้ดี แล้วอย่าลืมขายแนวคิด ขายสินค้า ว่าถ้าเป็นตัวนักขายเองจะซื้อหรือไม่ คำ ๆ หนึ่งที่ดังขึ้นมาในหัวคือ Must have  ต้องมี  ทำอย่างไรให้ลูกค้าต้องมีสินค้าจากเรา ต้องมี หรือไม่ก็เสาะแสวงหาสินค้านั้น  เมื่อถึงจุดนั้น หมายความว่า คุณค่า ในตัวสินค้าและบริการจากเรา ลูกค้ารับรู้ได้ มีความต้องการครอบครอง ทำให้สินค้านั้นขายตัวของมันเอง เมื่อลูกค้านึกถึง จุดนี้ ใช่เลย สิ่งที่นักขายรอคอย  หลังจากการนำเสนอ ผ่านกระบวน ขั้นตอนมากมาย จากเรื่องเก่า เล่าใหม่ ในฉบับของตน