Working on target

Working & Learning at the same time การตั้ง target เป็นช่วงเวลาที่ชี้เป็นชี้ตายสำหรับนักขาย

บางคนตั้งเป้าแบบ Optimistic บางคนตั้งเป้าแบบ Pessimistic บางคนตั้งเป้าแบบ Realistic

แต่ละกลุ่มมีเหตุผลของตนเป็นพื้นฐาน

การตั้งเป้า target มีทั้งแบบ - บนลงล่าง : Top down target - ล่างขึ้นบน : Bottom up target - บนลงล่าง ชน ล่างขึ้นบน : Balance both side

ไม่ว่าตั้งเป้ารูปแบบใดก็ตาม จะส่งผลต่อการวางกลยุทธ์และการลงงบประมาณ budget สำหรับหน่วยงานนั้น

หลังจากได้ตัวเลข budget ขั้นตอนต่อมาคือการนำเสนอให้ผู้บริหารระดับสูงเพื่อขออนุมัติ

สำหรับคนที่ผ่านการตั้ง target มา หลาย ๆ ครั้ง จะพบว่า target ที่ดี ต้องมี challenge สร้างความท้าทายในการดำเนินงาน

หากตั้งเป้าต่ำกว่าปีที่แล้ว นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ ต้องอธิบายแบบชักแม่น้ำทั้ง 5 มาอธิบาย ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่น้ำทั้งห้าสาย หากมารวมกันมันจะขุ่นไหม คิดให้ดี

หากตั้งเป้าเท่าปีที่แล้ว นี่ก็เหนื่อย มันมีความหมายไม่เติบโต ไม่มีอะไรใหม่ แต่ต้นทุนโดยรวมมันขึ้นทั้งนั้น หรือใครบางยอมลดเงินเดือนตัวเอง เป็นไปได้ยาก

หากตั้งเป้าเติบโตเท่ากับ %GDP growth ดูเหมือนจะโต แต่มองให้ลึกซึ้งจะพบว่า มันโตตามน้ำ หรือเรียกว่า organic growth มันยังไม่ท้าทาย

หากโตกว่าปีที่แล้วซัก 2-digit % นี่สิ น่าสนใจ หมายถึงมีสิ่ง ๆ ใหม่ มีการวางแผน วางกลยุทธ์ หากปิดปีแล้วชนะเป้า ถึงขั้น outstanding มีสิทธิ์เลื่อนขั้นก็เป็นไปได้

หากตั้งเป้าสูงกว่าปีก่อน แบบเท่าตัว ความเป็นไปได้มีไหม หรือบริษัทเลือก shift business platform ก็อาจเป็นไปได้

แต่มันก็น่าห่วงนะ ห่วงใจตัวเองนะ อาจหมดใจไปเลย เพราะเป็นการตั้งเป้าแบบตายกันไปข้าง ซึ่งกลัวว่าจะเป็นข้างนักขายเสียเอง